วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง "ซับน้ำตาชาวใต้" 8 จังหวัดภาคใต้

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง "ซับน้ำตาชาวใต้" 8 จังหวัดภาคใต้

จัดงบกว่า 15.5 ล้านบาท ฟื้นฟูหลังน้ำลดผู้ประสบอุทกภัย 

แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค 

มอบเงินช่วยเหลือกรณีบ้านพังทั้งหลัง 

และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิต


       ระหว่างวันที่ 2 - 20 มกราคม พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการฯ ห่วงใยผู้ประสบอุทัยภัยภาคใต้ มอบหมายให้ นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย แผนกบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปฏิบัติการ จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 8 จังหวัดภาคใต้ ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ประกอบด้วย จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา รวมจำนวน 30,200 ชุด ๆ ละ 450 บาท มอบเงินสงเคราะห์กรณีบ้านเรือนที่เสียหายจากอุทกภัย หลังละ12,000 บาท จำนวน 66 หลังคาเรือน และมอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต รายละ 20,000 บาท จำนวน 59 ราย รวมงบประมาณไม่ต่ำว่า 15.5 ล้านบาท โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ สมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ


       เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ กรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์


ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

การท่องเที่ยวเปรัคจัดแสดงในงาน THAILAND INTERNATIONAL TRAVEL FAIR (TITF) 2025

การท่องเที่ยวเปรัคจัดแสดงในงาน THAILAND INTERNATIONAL TRAVEL FAIR (TITF) 2025 

พร้อมเปิดตัวพาวิลเลียนและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์


       รัฐบาลรัฐเปรัค โดยการท่องเที่ยวเปรัค เข้าร่วมงาน Thailand International Travel Fair (TITF) 2025 ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 16-19 มกราคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพมหานคร สำหรับการเข้าร่วมงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกครั้งที่ 30 นี้ การท่องเที่ยวเปรัคต้องการนำเสนอเหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายของเปรัค ผ่านการผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสู่สายตานักท่องเที่ยวนานาชาติ


       โดยไฮไลท์ของงานคือการเปิดพื้นที่จัดแสดงบูธของการท่องเที่ยวเปรัค (Perak Pavilion) ซึ่งพร้อมดึงดูดผู้เข้าชมด้วยการแสดงที่คึกคักมีชีวิตชีวาของรัฐเปรัค สำหรับพิธีเปิดนี้ได้รับเกียรติจาก YB Loh Sze Yee (นายโละ เซะ ยี) ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การลงทุน และการพัฒนาคอริดอร์ของรัฐเปรัค พร้อมด้วย Ms. Nurmalis Musa (นางสาว นูร์มาลิส มูซา ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของการท่องเที่ยวเปรัค และ Mr. Azamuddin Abdul Razak (นายอาซัมมูดิน อับดุล ราซัค) รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวมาเลเซีย สำนักงานกรุงเทพฯ


        การท่องเที่ยวเปรัคได้นำเอาผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่มีเสน่ห์ของรัฐมาจัดแสดงพร้อมให้ผู้เข้าชมทำกิจกรรม D.I.Y โดยการนำเสนอของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงของเปรัคที่ทางรัฐนำมาจัดแสดงจะมี ผ้าบาติกเปรัค และ ละบูไซยง (เครื่องปั้นดินเผาสำหรับใส่น้ำ ซึ่งใช้ดินแร่ธาตุจากรัฐเปรัค) เป็นการเฉลิมฉลองอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลายของเปรัค คณะผู้แทนประกอบด้วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของรัฐ และเอเจนต์ทัวร์จากไทยที่ร่วมกันโปรโมท ซึ่งจะสะท้อนถึงความร่วมมือข้ามพรมแดนที่แข็งแกร่ง

        นอกจากนี้ ในการประชุมแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ในวันที่ 15 มกราคม 2025 ยังได้สร้างแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของมาเลเซียและไทยในการสำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อีกด้วย

         สำหรับจุดประสงค์หลักในการเข้าร่วมงาน TITF#30 ของการท่องเที่ยวเปรัคคือ การแนะนำแพ็คเกจท่องเที่ยวระหว่างภาคใต้ของไทย – รัฐเปรัค ซึ่งเป็นโครงการที่ก้าวล้ำออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาค แพ็คเกจนี้ส่งเสริมประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นระหว่างสองภูมิภาค โดยมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 5,000 คนต่อปีจากแต่ละภูมิภาค โดยมีราคาแพ็คเกจเริ่มต้นที่  600 ริงกิต (หรือประมาณ 5,000 บาท) ต่อท่าน


          โครงการนี้ได้ผ่านการลงนามในบันทึกข้อตกลงสองฉบับ ซึ่งทั้งสองฉบับนี้เอื้อประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวระหว่าภาคใต้ของไทย และรัฐเปรัค

         โดยบันทึกข้อตกลง (MOU) ฉบับแรก ลงนามโดย Tuan Zamari bin  Muhyi (นายซามารี บินมุฮยี) ประธานสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวบูมิปูเตร่าเปอร์ลัก (PPPBP) และ Ms. Aida Oujeh (นางสาวไอดา อูเจห์) ประธานสมาคมการค้าท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน (TAHTA) มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาข้อเสนอการท่องเที่ยวแบบฮาลาล และความร่วมมือนี้จึงทำให้เกิดการพัฒนาการในส่วนของการเดินทางที่ครอบคลุม และโครงการฝึกอบรมร่วมที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว


          สำหรับข้อตกลง (MOU) ฉบับที่สอง ลงนามโดยนางจิรลักษณ์ ผดุงภักดีวงศ์ (จูลี่) กรรมการผู้จัดการของ C&P World Tour และประธานสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ภาคใต้ตอนล่าง(TTAA-Lower Southern Thailand) และ Ms. Esther Saw (นางเอสเธอร์ ซอ) ผู้อำนวยการของ Time Free Vacation Sdn. Bhd. ได้จัดทำกรอบงานที่ครอบคลุมสำหรับแพ็คเกจทัวร์ ภาคใต้ของไทย – เปรัค โดยความร่วมมือนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันในด้านการตลาด การพัฒนาศักยภาพ และการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

          บันทึก MOU ทั้งสองฉบับ มี YB Loh Sze Yee (นายโละ เซะ ยี), Ms. Nurmalis Musa (นางสาว นูร์มาลิส มูซา ) และ Mr. Azamuddin Abdul Razak (นายอาซัมมูดิน อับดุล ราซัค) ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นร่วมกันในการส่งเสริมการเติบโตของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อกันระหว่างรัฐเปรัคและภาคใต้ของประเทศไทย


         การเข้าร่วมงานการท่องเที่ยวเปรักที่งาน TITF 2025 เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการวางตำแหน่งเปรักให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของปีเยี่ยมชมเปรักในปี 2024 ที่ผ่านมา และปีเยี่ยมชมมาเลเซีย 2026 ที่กำลังจะมาถึง สำหรับข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับกิจกรรมและงานต่างๆ ในเปรัค สามารถติดตามได้จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของการท่องเที่ยวเปรัคได้ที่ Facebook, Twitter, Instagram และ Tik Tok







วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2568

ททท. จัดประดับตกแต่งไฟยิ่งใหญ่ใน "เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568"

ททท. จัดประดับตกแต่งไฟยิ่งใหญ่ใน "เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568"

ภายใต้แนวคิด “Ignite Your Senses Embrace Our Two Cultures” 

ฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

      การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดพิธีเปิดประดับตกแต่งไฟใน "เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568" เฉลิมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ วงเวียนโอเดียนโดยมีนายอู๋ จื้ออู่ อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานฝ่ายรับเสด็จฯ งานตรุษจีนเยาวราช ผู้บริหารระดับสูงททท. สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และผู้แทนกรุงเทพมหานคร ร่วมงานฯ เมื่อค่ำวันที่ 19 มกราคม 2568

       ททท. ได้ร่วมจัดเทศกาลตรุษจีน บริเวณถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมจีน โดย ททท. เนรมิตถนนเยาวราชด้วยการประดับไฟตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม - 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18.00-24.00 น. ภายใต้แนวคิด “Ignite Your Senses Embrace Our Two Cultures” นำเสนอผ่านสีโทนแดงและทอง สื่อถึงพลังแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ความมั่งคั่งร่ำรวยและโชคลาภ สร้างสรรค์ไฮไลต์ซุ้มไฟงูสีแดงและประดับไฟดอกไม้หลากสีบริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ วงเวียนโอเดียน ถึง แยกเฉลิมบุรี ถนนเยาวราช


        นอกจากนี้ ททท. จัดงานในพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันที่ 28 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงเทศกาลตรุษจีนจากทั่วโลก โดยต้อนรับผู้เข้าร่วมงานด้วยไฮไลต์ Art Installation แลนด์มาร์กรูปงูฉลุลายประดับไฟขนาดใหญ่ องค์เจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าที่ชาวจีนนับถือ พร้อมจำลองชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่และมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจได้แก่ ชุมชนจีนโบราณบ้านชากแง้ว จ.ชลบุรี และชุมชนจีนตลาดน้อย ศาลเจ้าโรงเกือก เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสบรรยากาศและเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังมีกิจกรรมสาธิตวัฒนธรรมไทย-จีน 4 กิจกรรม ได้แก่ การเขียนพู่กันจีน ศิลปะการตัดกระดาษจีน การเขียนหัวโขน และการเขียนลายเบญจรงค์ รวมถึงการออกร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในสื่อสังคมออนไลน์จำนวนกว่า 30 ร้าน พร้อมด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมคณะนักแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกว่า 80 คน และการแสดงศิลปินตลอด 6 วัน ได้แก่วง MEAN วง HERS, Tilly birds, Landokmai, Scrubb, Whal & Dolph, ต้าห์อู๋ พิทยา, PAIINNTT, Bowkylion, Better Weather, bamm และ Risa Narisa

         ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 ประกอบด้วย วันที่ 28 มกราคม 2568 พิธีกล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีนให้กับพี่น้องชาวจีนทั่วโลก ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวมทั้งจัดการแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ไทย-จีน โดยประเทศไทยนำเสนอเสน่ห์และเอกลักษณ์ไทยในการแสดงชุด “Soft Power Of Thailand ” วันที่ 29 มกราคม 2568 พิธีเปิดเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2568 ณ ถนนเยาวราช โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนนำการแสดงทางวัฒนธรรมรูปแบบ Thai Contemporary ผสมผสานเครื่องดนตรีจีน แสดงหน้าพระพักตร์ รวมทั้งจัดทำบูธในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช นำเสนอนิทรรศการ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

         ททท. คาดการณ์ว่าช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2568 จะก่อให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยวไทยรวมประมาณ 40,360 – 40,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 - 10 เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 2.22 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 สร้างรายได้ประมาณ 6,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ขณะที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1.34 - 1.35 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 – 6 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 34,060 – 34,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7-8 เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งสำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 2.77 - 2.87 แสนคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3-7 สร้างรายได้ 8,500 - 8,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 - 9 นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน รวมทั้งนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนในมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เข้ามาสมทบในช่วงเทศกาลตามลำดับ 

วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ชาวจังหวัดเลยอย่างยั่งยืน..

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ชาวจังหวัดเลยอย่างยั่งยืน..

มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพผู้ยากไร้ พร้อมมอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการประชาชน ฟรี!

         มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน  นำทีมลงพื้นที่จังหวัดเลย (จังหวัดที่ 17 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จัดพิธีมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 28 ครัวเรือน เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว  และมอบจักรยาน จำนวน 20 คัน ให้แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมอบในจังหวัดเลย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น จำนวน 713,430 บาท (เจ็ดแสนหนึ่งหมื่นสามพันสี่ร้อยสามสิบบาทถ้วน)


นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ)  และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชนเป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จังหวัดเลย เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมทั้ง ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อาทิ นายวสวิศว์ ศตพิพัฒน์ (ต้น-วสวิศว์) และ นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น) ร่วมมอบและสร้างสีสันภายในงาน  ณ บริเวณมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จังหวัดเลย เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568


      โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม

      ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่างๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาการดำเนินงานอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ชมโชว์แล่ปลาทูน่าบลูฟิน ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ

โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ เชิญชมโชว์แล่ปลาทูน่าบลูฟิน ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ

 
      เปิดประสบการณ์สุดพรีเมียมรับปี 2025 ด้วย “ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (บลูฟินทูน่า)” ส่งตรงจากญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟแบบซาซิมิ แล่สดใหม่จานต่อจาน ให้ชมและชิมเป็นของขวัญปีใหม่ตลอดเดือนมกราคมนี้เท่านั้น  ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ


       โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ จัดโชว์แล่ปลาทูน่ายักษ์ให้ทุกท่านที่มาทานบุฟเฟต์นานาชาติมื้อเย็นได้ยลโฉมปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Hon-Maguro” ซึ่งเป็นปลาทูน่าสายพันธุ์ที่มีราคาสูงที่สุด เป็นปลาทะเลเลือดอุ่นที่พบในน่านน้ำเขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลก คุณภาพดีทั้งในด้านรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ทานได้ไม่อั้นเป็นไฮไลท์ที่ภูมิใจนำเสนอระหว่างเวลา 18.00 – 22.00 น.ทุกวัน บริการในรูปแบบ “บุฟเฟต์นานาชาติรวมซีฟู้ดและซูชิพรีเมียม” ที่มีทั้งหอยนางรม ปูม้า หอยหวาน กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ฯลฯ พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด รสแซบ มุมข้าวต้มกุ๊ยที่มีเครื่องเคียงกับข้าวมากมายให้เลือกอิ่มอร่อย มุม Carving Station 7 วัน 7 เมนู ขาหมูสูตรดิเอมเมอรัลด์ ข้าวต้มปลากะพง ซุปเห็ดทรัฟเฟิล พาสต้า ซูชิฟัวกราส์ วากิว ปลาไหลญี่ปุ่น แซลมอนนอกจากนี้ยังมี เทปปันยากิ กุ้งแม่น้ำเผา เทมปุระ ฯลฯ รวมเครื่องดื่มน้ำอัดลม ชา-กาแฟ ของหวานทั้งไทย เบเกอรี่ ไอศกรีม และผลไม้ตามฤดูกาล รับประกันความคุ้มค่า ในราคาเพียงท่านละ 1,700 บาทถ้วน


        โปรโมชั่นพิเศษ!! ฉลองปีใหม่ 2568 เหลือเพียงท่านละ 1,299++ บาท (1,529 บาท) รับฟรี!! เครื่องดื่ม “ค็อกเทลหรือม็อกเทล 1 แก้ว” ตลอดเดือนมกราคมนี้


        ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ มีห้องวีไอพีสำหรับลูกค้า 15-20 ท่าน จำนวน 2 ห้องไว้บริการเพื่อความเป็นส่วนตัว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2276-4567 ต่อ 8413-4 หรือไลน์ @theemeraldhotel และ www.facebook.com/theemeraldcoffeeshop 

งานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 21 ณ สวนสาธารณะหาดนครเชียงเชียงราย

งานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 21 

ณ สวนสาธารณะหาดนครเชียงเชียงราย

 27 ธ.ค. 2567 ถึง 16 ก.พ. 2568


        งานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 21 ณ สวนสาธารณะหาดนครเชียงเชียงราย ริมน้ำกก โดย เทศบาลนครเชียงราย (ต่อจากการจัดงานมหกรรมดอกไม้อาเซียนเชียงราย โดย อบจ.เชียงราย 17 ธค. 67 - 5 มค. 68) จัดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ไปจนถึง 16 กุมภาพันธ์ 2568 ในพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ มีดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้ท้องถิ่นเกือบ 1 ล้านต้นในสวน กำลังบานสะพรั่งอย่างสวยงาม และบรรยากาศที่ติดกับแม่น้ำกก ภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาอยู่ติดตรงข้ามกับสวนดอกไม้ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนอย่างมาก



โดยมีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมตั้งแต่วันแรกโดยเฉพาะในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่ผ่านมาอย่างเนืองแน่น ส่งผลให้การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายคึกคักเป็นอย่างอย่างมาก ห้องพักในเชียงราย กว่า 800 แห่ง ประมาณ 23,000 ห้อง มีการเข้าพักเกือบ 100% ในช่วงวันหยุดยาว 5 วันที่ผ่านมา และ อัตราการเข้าพักในเดือนธันวาคม 2567 ประมาณ 90%



         ททท.สำนักงานเชียงราย ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสเชียงรายในช่วงนี้ที่มีดอกไม้ ธรรมชาติสวยงาม อากาศเย็นถึงหนาวไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นี้ 

วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุขมอบของขวัญให้แก่เยาวชนทั่วประเทศ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุขมอบของขวัญให้แก่เยาวชนทั่วประเทศ 

เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568

      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีมอบชุดของขวัญวันเด็ก ประกอบด้วย สมุด ดินสอ ไม้บรรทัด และ กล่องดินสอ เป็นของขวัญให้กับนักเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีผู้แทนโรงเรียนเป็นผู้รับมอบ ณ ลานสำนักงานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ.2568


รวมทั้งยังจัดให้มีการส่งชุดของขวัญวันเด็กของมูลนิธิฯ เพื่อมอบให้กับเยาวชนในส่วนภูมิภาค ผ่านหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ รวมจำนวนของขวัญวันเด็กที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมอบให้กับเยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ทั้งสิ้น 900,000 ชุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 15.8 ล้านบาท


       และในวันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดเข้าพบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบของขวัญวันเด็ก สำหรับนำไปแจกจ่ายแก่เด็กและเยาวชน เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล


        นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า การให้ของขวัญวันเด็ก เป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่มูลนิธิฯ ได้จัดทำต่อเนื่องมาเป็นเวลา 66 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ด้วย การมอบของขวัญให้เด็กๆ ในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ” แบ่งปันความรัก ความสุขและเสริมการเรียนรู้ สร้างเด็กดีในวันนี้ให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณค่าของสังคมและประเทศชาติในอนาคต โดยมูลนิธิฯ ขอส่งความรัก ความปรารถนาดีให้เด็กๆ ทุกคนเป็นเด็กดี มีคุณธรรม กตัญญู รู้คุณ พ่อแม่ ครูอาจารย์ รู้จักประหยัด มัธยัสถ์ ห่างไกลยาเสพติด ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หมั่นเรียนรู้ทุกโอกาส เพื่ออนาคตที่ดีของตนเอง และประเทศชาติ ดังคำขวัญวันเด็กของท่านนายกรัฐมนตรี ประจำปี พ.ศ.2568 ที่มอบให้ คือ “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”


         ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงการส่งเสริมด้านการศึกษา เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้านต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง "ซับน้ำตาชาวใต้" 8 จังหวัดภาคใต้

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง "ซับน้ำตาชาวใต้" 8 จังหวัดภาคใต้ จัดงบกว่า 15.5 ล้านบาท ฟื้นฟูหลังน้ำลดผู้ประสบอุทกภัย  แจกจ่ายเครื...