วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

กฟผ. จัดงาน “ตลาดนัดแอนจี้ ของดีทั่วไทย” มอบความสุขส่งท้ายปี พร้อมเปิดตัวซีรี่ส์ “สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง”

 กฟผ. จัดงาน “ตลาดนัดแอนจี้ ของดีทั่วไทย” มอบความสุขส่งท้ายปี พร้อมเปิดตัวซีรี่ส์ “สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง”



        การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไท0 (กฟผ.) จัดงาน “ตลาดนัดแอนจี้ ของดีทั่วไทย” มอบความสุขส่งท้ายปี พร้อมเปิดตัวซีรี่ส์ “สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง” ร่วมช่วยชาติกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน นำเสนอนักท่องเที่ยวได้เห็นความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวและรู้จักชุมชนรอบเขื่อนและโรงไฟฟ้า ภายใต้แนวคิดท่องเที่ยวสดใสใส่ใจสิ่งแวดล้อม 7 Greens 


         นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายจรัญ คำเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และนางสาว อรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอร์ดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ร่วมพิธีเปิดงาน “ตลาดนัดแอนจี้ ของดีทั่วไทย” และแถลงข่าวเปิดตัวซีรีย์สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง” ณ โซน Lifestyle Hall A/B ชั้น G เดอะมอลล์บางกะปิ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563ตา


            งาน“ตลาดนัดแอนจี้ ของดีทั่วไทย” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2563 โดยภายในงานท่านจะได้พบกับตลาดนัดสินค้าชุมชนที่มาจากบริเวณรอบเขื่อนทั่วประเทศไทยกว่า 20 ร้านค้า พร้อมบูธแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน


       ส่วนซีรี่ย์เรื่อง "สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง" เป็นซีรี่ย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ได้พระเอกสุดหล่อขวัญใจวัยรุ่นอย่าง นาย-ณภัทร ประกบคู่กับมายด์-ลภัสลัล มาร่วมแสดงถ่ายทอดเรื่องราวความสวยงามของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชน พลาดไม่ได้กับตอนแรกออกอากาศในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.15-10.30 น ทางช่อง 3


*ปักหมุดเที่ยวเขื่อนกับโรงไฟฟ้า*




วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ชมรมกอล์ฟสัมพันธ์ ปปร.24 จัดกิจกรรมแข่งขันกอล์ฟ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างกันในรุ่น ปปร.24

ชมรมกอล์ฟสัมพันธ์ ปปร.24 จัดกิจกรรมแข่งขันกอล์ฟ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างกันในรุ่น ปปร.24



    ดร.ชัยรัตน์ จำนงค์การ ประธานชมรมกอล์ฟสัมพันธ์  ปปร.24 ได้จัดการแข่งขันกอล์ฟ เพื่อกระชับความสัมพันธ์นักบริหารระดับสูงที่ศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูงรุ่นที่ 24 (ปปร.24) ภายใต้บรรยากาศที่สนุกสนานและเป็นกันเอง ณ สนามกอล์ฟซัมมิท ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ แอนด์ โฮเทล จ.ปทุมธานี เมื่อวันพุธที่ 25 พ.ย.63 เวลา 13.00 น. 






สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ ประชุมเดินหน้าเตรียมพร้อมจัดงานคาราวานแรลลี่ ”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” หวังเป็นคาราวานผสานความรู้เทคโนโลยี่-กฎหมาย พร้อมสุขภาพไปพร้อมกัน

สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ ประชุมเดินหน้าเตรียมพร้อมจัดงานคาราวานแรลลี่ ”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” หวังเป็นคาราวานผสานความรู้เทคโนโลยี่-กฎหมาย พร้อมสุขภาพไปพร้อมกัน 

         นายสมชาย พหุลรัตน์ ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ (สคทส.) พร้อมด้วย อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต), พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้” (ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์) ที่ปรึกษาสถาบันฯ, อ.เภสัชกรอธิวัฒน์ สินรัชตานันท์ (นักวิชาการด้านสาธารณสุข-ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แพทย์ทางเลือก), คุณพัชรียาภรณ์ สิงหพัตร์ (ประธานฯบริษัทและนักธุรกิจด้านอาหาร), ดร.สรุชัย เลี่ยมทอง (ประธานบริษัท เอดจิ้งฯ) พร้อมด้วยนายชนแดน พรหมเมศร์ (นักธุรกิจสมุนไพร) ได้ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานคาราวานแรลลี่ ”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” ที่จะจัดให้มีขึ้นในปีหน้า เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนและส่งเสริมความรู้ให้กับเครือข่ายในต่างจังหวัด โดยในวันนี้ได้มีคุณชัยวัฒ อภิภูทรัพย์ไพศาล ประธานบริษัท เอสวีจีซิลเวอร์โกลด์กรุ๊ป จำกัด ที่สารวัตรแรมโบ้ได้ชักชวนมาร่วมอุดมการณ์ และนายจิรโรจน์ มาลัยทองทิพย์ (นักธุรกิจจากภาคตะวันออก 8 จังหวัด), คุณอำนวย โกวิทธรรมกรณ์ (นักธุรกิจด้านดับเพลิง), คุณอังกูร  ไผ่แก้ว​ (ประธานบริษัทรักษาความปลอดภัย), คุณธรรมรัตน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (คอลัมนิสต์อาหาร), ดร.ปิยวัส ผดุงสรรพ (นักธุรกิจด้านเศรษฐกิจพอเพียง), นายเทวพร เจริญมี  (นักธุรกิจด้านประกัน-และพลังทางเลือก), นายอิศรานนท์ สิทธาพิสทธิ์กุล (ที่ปรึกษาบริษัทส่งออกผลไม้) คอลัมม์นิสต์รถยนต์, อาจารย์เปี๊ยก-คุณเกียรติพงษ์ พิณทอง (ธุรกิจสุขภาพ), กชกร​ ศิริชัยกูล (ธุุรกิจส่วนตัว), คุณเอกวาสิทธิ์ ภู่เจริญศิลป์ และ อ.ดนัย หริพัฒน์กุล (ครูมวยไทย) พาเครือข่ายมาร่วมประชุมด้วย 

           โดยที่ประชุมสรุปประเด็นสาระของการเตรียมความพร้อมการจัดคาราวานแรลลี่ ”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (คาราวานแรลลี่ครั้งนี้ จะเป็นคาราวานความรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนานและความบันเทิง  มีการบรรยายทางวิชาการโดยทีมงานด้าน Leadership นำโดย Prof. อิน นฤหล้า (นักวิชาการนานาชาติ) อดีตคณะบดีคณะบริหารเอแบค และทีมวิทยากร ได้แก่ Prof. ปีแอร์ เดอลาลองด์, Prof. สก็อต บัดเล่ย์ รวมทั้งทีมวิทยากรสุขภาพ อาทิ อ.เภสัชกร อธิวัฒน์  และ ดร.สุรชัย  เลี่ยมทอง

     ซึ่งในปีหน้าสถาบันฯ จะลงพื้นที่ไปทุกภาค เพื่อพบกับเครือข่ายแกนนำที่ร่วมกันก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์  ตามนโยบายสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้มีภาวะผู้นำตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนออกไปทั่วทุกภาค 

       สำหรับการจัดคาราวานแรลลี่ ”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในครั้งนี้ ทางสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ (สคทส.)  จะจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ศกนี้

มาเที่ยว Season of North @นครสวรรค์ ปลายปีนี้ สัมผัสบรรยากาศทุ่งดอกไม้ ณ อำเภอตากฟ้า พร้อมรับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่ม 1 แถม 1

มาเที่ยว Season of North @นครสวรรค์ ปลายปีนี้

สัมผัสบรรยากาศทุ่งดอกไม้ ณ อำเภอตากฟ้า

พร้อมรับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่ม 1 แถม 1

Season of North ปลายปีนี้ มาเที่ยวนครสวรรค์ สัมผัสบรรยากาศทุ่งดอกไม้ ทั้งทุ่งทานตะวัน ทุ่งปอเทือง ทุ่งดอกคอสมอส และทุ่งดอกบานชื่น ณ อำเภอตากฟ้า พร้อมรับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่ม 1 แถม 1 จากร้านค้าที่ร่วมรายการ ได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 - 31 มกราคม 2564



สำหรับนักท่องเที่ยวนอกพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ 1คน / 1 สิทธิ์ เพียงทำตาม 2 ขั้นตอนง่ายๆ  คือ

1. แสดงบัตรประชาชนยืนยันแก่ทางร้านค้า เพื่อแสดงว่าเป็นนักท่องเที่ยวนอกพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

2. แสดงหลักฐานการโพสต์ หรือแชร์ภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในอำเภอตากฟ้า หรือแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในพื้นที่นครสวรรค์ ผ่านทาง Facebook, Instragram, Twitter ฯลฯ

และที่พิเศษสุด ! สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน อุตรดิตย์ลำปาง ลำพูน ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร และอุทัยธานี จะได้รับคูปองลุ้นรางวัลพิเศษเพิ่มเติมจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

สำหรับรายชื่อร้านค้าที่ร่วม Promotion (ด่วน มีเพียง 50 สิทธิ์ / 1 ร้านค้า) ได้แก่

1. ร้านกาแฟไร่ธรรมชัย

2. ร้านกาแฟไร่ซับตะเคียน

3. ร้านพุขมิ้นคอฟฟี่

4. The Escape Café

5. ร้านสปันจ์ (สาขาตากฟ้า)

6. ร้านบ้านก๋วยเตี๋ยวตากฟ้า

7. ร้านปริยานุช

8. ร้านนิ่มอนงค์

9. ร้าน Blackbox

10. ร้าน Heat up Cafe'

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง เพจ Facebook : TAT Nakhonsawan.Phichit

 โทรศัพท์ : 056-221-811-2

https://www.facebook.com/TATNakhonsawan.Phichit/posts/881288239074215 

สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว THAI TRAVEL AGENTS ASSOCIATION (TTAA) จัดพิธีลงนามความร่วมมือของสมาคมท่องเที่ยว 6 สมาคม และ 1 สมาพันธ์ เพื่อร่วมมือกันในการ ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาอย่างเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว THAI TRAVEL AGENTS ASSOCIATION (TTAA) จัดพิธีลงนามความร่วมมือของสมาคมท่องเที่ยว 6 สมาคม และ 1 สมาพันธ์ เพื่อร่วมมือกันในการ

ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาอย่างเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน


                นายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) จัดแถลงข่าวและร่วมลงนามความร่วมมือของสมาคมท่องเที่ยว 6 สมาคม และ 1 สมาพันธ์ ได้แก่ สมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) โดยนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์ฯ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) โดยนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมฯ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) โดยนายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมฯ สมาคมผู้ประกอบนำเที่ยวไทย (สนท.) โดยนายพงศกร ชูวิชา นายกสมาคมฯ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) โดยนางสาวจิราพร อมรวิสิทธิ์กุล นายกสมาคมฯ และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) โดยนางสาวนีรชา วงศ์มาศา นายกสมาคมฯ ในความเห็นถึงความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนที่ค้องร่วมมือกันในการทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาอย่างเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ณ ห้องบอลล์รูม โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563

นายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบดีว่าตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2562 เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัวจากปัญหาต่างๆ รวมถึงการส่งออกที่มีปัญหากับบางประเทศ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ยังคงเป็นรายได้หลักเข้าประเทศ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี พ.ศ. 2562 มีประมาณ 39 ล้านคน และนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 167 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 3 ล้านล้านบาท    


 ซึ่งในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด การหยุดชะงักของการเดินทางท่องเที่ยวอันมาจากนโยบายด้านสุขอนามัยและมาตรการด้านสาธารณสุข ที่มีการประกาศปิดประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งยังคงชะลอตัวทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจการบิน ธุรกิจโรงแรมที่พัก ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวก่อตั้งมาร่วมกว่า 40 ปี เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยประเทศไทยได้พยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจไห้เกิดการหมุนเวียนทางการเงินในระบบผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งปัจจุบันคงทราบว่าเกิดการชะลอตัวด้วยเช่นกัน สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวมิได้นิ่งนอนใจ จึงได้ร่วมกับภาคต่างๆ ในรูปแบบ Plublic Private Parnership (PPP) คือการมีส่วนร่วมระหว่างรัฐและเอกชน โดยภาครัฐมีความต้องการขับเคลื่อนนักท่องเที่ยวในกลุ่มกำลังซื้อสูง สมาคมฯ มีสมาชิกมากกว่า 800 หน่วยงาน และมีตลาดที่มีกำลังซื้อสูงตรงกับนโยบายภาครัฐ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสมาคมเพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ จึงเร่งกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทยในด้านต่างๆ ดังนี้คือ

      1. สร้างความเข้าใจในสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยจัดให้มีการเดินทางเพื่อศึกษาเส้นทาง โดยที่ผ่านมาได้เดินทางไปยังภาคใต้ ภาคอีสาน และในอนาคตอันใกล้นี้จะเดินทางไปยังภาคเหนือและภาคกลาง

      2.สร้างช่องทางการสื่อสาร และการขายผ่านออนไลน์ โดยมีการสร้างเว็บไซด์ TITF ONLINE ให้เป็นช่องทางสำหรับสมาชิกสมาคมในการติดต่อสื่อสาร และการขายผ่านออนไลน์

      3. การอบรมเพื่อสร้างความรู้กับสมาชิกสมาคมในด้านต่างๆ

      4. การร่วมมือกับภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) ฯลฯ

      5. สร้างความร่วมมือผ่านเครือข่ายมหภาค สร้างภาคีเครือข่าย 6 สมาคม 1 สมาพันธ์ เพื่อร่วมมือกับภาครัฐในการผลักดัน และขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทยในตลาดกำลังซื้อสูงแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน

       6. จัดงานผู้ซื้อพบผู้ขายตลาดภายในประเทศ ผ่านงานเที่ยวทั่วไทย สไตล์ทัวร์นอก (TITF) ครั้งที่ 27 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยร่วมกับภาครัฐและเอกชนทั้งระบบ

         อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ณ วันนี้ คงจะไม่มีทางที่จะเหมือนเมื่อวาน  "ดังคำกล่าวของท่านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยมิใช่ของใครคนใดคนหนึ่งอีกต่อไป แต่ต้องอาศัยพลังของคนรุ่นใหม่ของเหล่าภาคีเครือข่ายทั้งระบบ เพื่อส่งเสริมขับเคลื่อนผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทดแทนตลาดชาวต่างประเทศที่มาเยือนประเทศไทยที่ยังคงต้องรอต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ด้านนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) กล่าวเสริมว่า ในส่วนกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคซึ่งมีมากกว่า 100 สมาคมทั่วประเทศ พร้อมที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไปด้วยกันกับ สมาคมท่องเที่ยว กระตุ้นการขายแพคเก็จทัวร์ ธุรกิจการบิน ธุรกิจโรงแรมที่พักอาศัย ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจท่องเที่ยวอื่นๆ ฯลฯ เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเดินหน้าต่อไป และยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการสร้างรายได้เข้าประเทศ

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบศาลาที่พักผู้โดยสาร จำนวน 10 หลัง เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบศาลาที่พักผู้โดยสาร จำนวน 10 หลัง เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร

           พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีรับมอบศาลาที่พักผู้โดยสาร จากนางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  พร้อมด้วยนายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการฯ และ นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการฯ โดยมีคณะผู้บริหารมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีมอบศาลาที่พักผู้โดยสาร เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และเป็นที่หลบแดดหลบฝนแก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 10 หลัง  รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 2,247,000 บาท (สองล้านสองแสนสี่หมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน)ณ บริเวณหน้าร้านค้าสวัสดิการกรมการทหารสื่อสาร ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน 2563

                 นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า โครงการสร้างศาลาที่พักผู้โดยสาร มีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดสร้างศาลาที่พักผู้โดยสาร ให้ประชาชนที่รอใช้บริการรถโดยสารสาธารณะมีที่หลบแดด หลบฝน ซึ่งโครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549  และได้ขยายการดำเนินงานไปทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งในส่วนศาลาที่พักผู้โดยสาร ในกรุงเทพมหานคร มูลนิธิฯ ได้เริ่มต้นโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ.2560  และได้สร้างแล้วเสร็จจำนวน 20 จุด ประกอบด้วย พื้นที่เขตประเวศ จำนวน 14 จุด เขตลาดกระบัง จำนวน 4 จุด และ เขตบางเขน จำนวน 2 จุด 

              และในปีพ.ศ.2563 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ดำเนินการสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารที่พื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง กรุงเทพมหานคร และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จำนวน 10 จุด  ประกอบด้วย บริเวณปากซอยสรงประภา 9 ปากซอยสรงประภา 13  ปากซอยวัดเวฬุวนาราม  และหน้าร้านค้าสวัสดิการกรมการทหารสื่อสาร ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง บริเวณด้านหน้าและตรงข้ามจุดจอดรถตู้ผู้โดยสารสาธารณะ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้าและตรงข้ามโรงพยาบาลคลองสามวา  ถนนไมตรีจิต เขตคลองสามวา บริเวณทางเข้าโรงพยาบาลเพชรเวช ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง และบริเวณใกล้แยกถนนเพชรเกษม ถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ

       ตลอดระยะเวลากว่า 110 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา   เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงการพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุก ๆ ด้าน ต่อไป       

  

      ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต 

แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบไออุ่น พร้อมถุงยังชีพ บรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดาร 16 จังหวัดภาคเหนือ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบไออุ่น พร้อมถุงยังชีพ 

รรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดาร 16 จังหวัดภาคเหนือ 

       มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการฯ พร้อมด้วยนายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการฯ นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการและเหรัญญิกฯ นำทีมคณะผู้บริหารฯ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ และทีมงานสังคมสงเคราะห์  ลงพื้นที่มอบผ้าห่มพร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ผู้ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดาร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง  ตำบลปงน้อย อำเภอดอยหลวง ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง  ตำบลปอ ตำบลท่าข้าม ตำบลม่วงยาย  อำเภอเวียงแก่น ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย รวมทั้งสิ้น 2,800 ชุด ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2563 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยมูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย และมูลนิธิกวงเม้งแม่สาย จังหวัดเชียงราย  เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี

             พร้อมกันนี้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ฯ นำทีมสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่มอบผ้าห่มพร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ผู้ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน และอำเภอแม่แตง อำเภอกัลยานิวัฒนา  อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งสิ้น 3,000 ชุด  โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิลำพูนสามัคคีการกุศล และมูลนิธิเชียงใหม่สามัคคีการกุศล เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี


          โครงการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยหนาว  ประจำปี 2563 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  กำหนดมอบผ้าห่มกันหนาวแก่ผู้ประสบภัยในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ  ครอบคลุมพื้นที่กว่า  43 จังหวัด   พร้อมมอบศาลาที่พักผู้โดยสารรวม 8 หลัง และถังบรรจุน้ำเพื่อการบริโภค รวม 28 ถัง รวมมูลค่าการดำเนินงานในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 26.2 ล้านบาท


         นอกจากนี้  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังได้ยกทีมหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน [หน่วยแพทย์เคลื่อนที่]  นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ฯ  พร้อมด้วย นายฐิติวัชร์ วรรณมโนมัย หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน  นำทีมเจ้าหน้าที่ แพทย์อาสา และอาสาสมัครสมทบทีมสังคมสงเคราะห์ ออกบริการผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และอุตรดิตถ์  ประกอบด้วย ตรวจรักษาโรคทั่วไป แจกจ่ายยา แจกแว่นสายตา แจกไม้เท้าแก่ผู้สูงอายุ บริการตัดผมฟรีโดยจิตอาสา ตรวจคัดกรองเบาหวาน และกิจกรรมนันทนาการสำหรับเยาวชนในพื้นที่ โดยมีประชาชนเข้ารับบริการรวม 1,710 คน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ  พร้อมด้วย มูลนิธิศาลเจ้าปุนเถ่ากง-ม่า จ.พิษณุโลก และมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมจัดกิจกรรม ณ บริเวณโรงเรียนบ้านน้ำพรม ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติอำเภอน้ำปาด ต.แสนตอ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์  


        กว่า 44 ปี ที่หน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นหน่วยบริการทางการแพทย์เคลื่อนที่ ออกบริการประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ชุมชนที่ขาดแคลน และพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง  ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 110 ปี  มูลนิธิฯ ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุก ๆ ด้าน ต่อไป ดังคำขวัญมูลนิธิฯ  “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” 

            ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต 

แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418

ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ผู้ช่วย รมว.ท่องเที่ยวฯ ประชุมเตรียมความพร้อมสู่ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

ผู้ช่วย รมว.ท่องเที่ยวฯ ประชุมเตรียมความพร้อมสู่ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025         นายจั...